วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สรุปประเด็นสำคัญจากงาน Open Forum : ICT Law Center under ETDA ภายใต้หัวข้อ “ร่วมปฏิรูปกฎหมาย ร่วมให้ความเห็น เพื่อเดินหน้าประเทศไทย”



วันเสาร์ที่ 24 มกราคม 2558 เวลา 10.00  น. สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)Electronic Transactions Development Agency (Public Organization)
          สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. โดย ICT Law Center จัดงาน Open Forum: หัวข้อ “ร่วมปฏิรูปกฎหมาย ร่วมให้ความเห็น เพื่อเดินหน้าประเทศไทย”  เมื่อวันเสาร์ที่ 24 มกราคม 2558 เวลา 10.00 น. เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้มีโอกาสร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างกฎหมาย 10 ฉบับที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติในหลักการให้ความเห็นชอบเมื่อไม่นานมานี้
          กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ กระทรวง ICT นำโดยรองปลัดกระทรวง ICT (นางทรงพร โกมลสุรเดช) ปฏิบัติหน้าที่โฆษกกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน และให้อธิบายภาพให้เห็นว่ากระทรวง ICT อยู่ระหว่างการปรับตัวเพื่อเป็นหลักในการรับผิดชอบนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลหรือ Digital Economy  ของคณะรัฐมนตรี ที่ต้องปรับการทำงานและวางแผนงานให้ประเทศไทยเดินหน้าเป็นดิจิทัลมากขึ้น  และเชิญชวนให้ผู้เข้าแสดงความเห็น ตั้งคำถาม แบ่งปันประสบการณ์ และสะท้อนมุมมองต่อชุดร่างกฎหมายทั้ง 10 ฉบับ เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศอย่างแท้จริง
          นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. ได้อธิบายถึงที่มาของการจัดงาน Open Forum ที่มีขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจและสื่อสารข้อมูลที่อาจจะยังไปไม่ถึงภาคสังคมเกี่ยวกับร่างกฎหมายฉบับต่าง ๆ ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงอยู่ขณะนี้ เนื่องจากกฎหมายเองมีบางส่วนที่ยังไม่ตกผลึกและยังต้องมีการปรับปรุง  สพธอ. จึงลุกขึ้นมาเป็นเจ้าภาพจัดงานในวันนี้ในลักษณะการสนทนาแบบ Open Forum ที่เปิดให้ทุกท่านได้แสดงความคิดเห็นได้เต็มที่
          นางสุรางคณาฯ ได้ให้ข้อมูลแสดงสถานภาพของประเทศไทยในปัจจุบันว่า ในวันนี้ประเทศไทยมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสูงถึง 95 ล้านหมายเลข หากมองจากปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่ออีคอมเมิร์ซพบว่าตัวเลข e-Payment ปัจจุบันมีมากถึง 750 ล้านล้านบาท ซึ่งในปีนี้ สพธอ. กำลังเร่งสำรวจว่ามีมูลค่าของอีคอมเมิร์ซทั้งประเทศที่แท้จริงเท่าไหร่เพราะตัวเลขดังกล่าวได้รวมการโอนเงินรายใหญ่ ๆ ไว้ด้วย แต่เมื่อมองในอีกมุมหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ การเปรียบเทียบศักยภาพของประเทศไทยกับประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะการดูแลระบบ Security ให้ปลอดภัย โดยได้มีการยกตัวอย่างการจัดลำดับประเทศที่มีความเสี่ยงในระบบสารสนเทศ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับทั่วโลกแล้วประเทศไทยมีความเสี่ยงจัดอยู่ในลำดับ 3 และในด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในปี 2013 ประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 48 ซึ่งสูงกว่าฟิลิปปินส์ แต่ต่ำกว่าทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย จากตัวอย่างสถิติที่กล่าวมานี้จึงเป็นข้อกังวลว่าประเทศไทยจะพร้อมรับมือภัยคุกคามรูปแบบใหม่ได้อย่างไร  ในขณะที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัล จึงเป็นโจทย์ที่จะต้องหาคำตอบไปพร้อมกับการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมด้วยดิจิทัล
          ขณะนี้ มีหลายคำถามเกิดขึ้น เช่น ทำไมต้องพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม? การทำงานของภาครัฐเป็นเอกภาพแล้วหรือยัง? เพราะทุกวันนี้ประเทศไทยมีคณะกรรมการหลายชุดในหลายด้าน แต่ก็ยังขาดการประสานงานข้ามหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพ และเมื่อต้องการผลักดันงานในแต่ละด้าน ต่างก็ตระหนักในเรื่องความมั่นคงปลอดภัย  การทำงานจึงต้องดูทั้งในมิติการรับมือ และในเชิง promote รวมทั้ง การ reform กระทรวง ICT มีส่วนสำคัญในการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงฯ เพื่อรองรับ Digital Economy นอกจากนี้ยังมีประเด็นคำถามเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันที่ยังมีต้นทุนราคาที่สูงกว่าในหลาย ๆ ประเทศ ซึ่งต้องการการตัดสินใจว่าประเทศไทยจะเป็นไปในทิศทางใด หรือแม้กระทั่งกองทุนที่ในปัจจุบันประเทศไทยมีอยู่หลายกองทุน แต่ยังไม่มีการนำมาใช้ประโยชน์ผลักดันพัฒนาประเทศเราเท่าที่ควร 
ดาวน์โหลดเอกสาร  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้

Translate

ผู้ติดตาม

Contact ETDA Teams

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *